โรคผิวหนังอักเสบเซ็บเดิร์ม Seborrheic Dermatitis หรือโรคผื่นแพ้ต่อมไขมัน คืออะไร รักษาได้อย่างไร

Last updated: 31 ต.ค. 2562  |  20043 จำนวนผู้เข้าชม  | 

โรคผิวหนังอักเสบเซ็บเดิร์ม Seborrheic Dermatitis หรือโรคผื่นแพ้ต่อมไขมัน คืออะไร รักษาได้อย่างไร

โรคผิวหนังอักเสบเซ็บเดิร์ม Seborrheic Dermatitis หรือโรคผื่นแพ้ต่อมไขมัน คืออะไร รักษาได้อย่างไร

โรคผิวหนังอักเสบเซ็บเดิร์ม Seborrheic Dermatitis หรือโรคผื่นแพ้ต่อมไขมัน คืออะไร รักษาได้อย่างไร

โรคผิวหนังอักเสบเซ็บเดิร์ม Seborrheic Dermatitis หรือโรคผื่นแพ้ต่อมไขมัน คืออะไร รักษาได้อย่างไร
หน้าแดงมันมีขุย ศีรษะมีรังแคเยอะ อาจเกิดจากโรค เซปเดิม #Seborrheicdermatitis ได้ครับ ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อย มาทำความรู้จักกับโรคนี้กันครับ

โรคผิวหนังอักเสบเซ็บเดิร์ม Seborrheic Dermatitis หรือโรคผื่นแพ้ต่อมไขมัน มีอีกหลายชื่อครับ เช่น โรครังแคบนใบหน้า โรคผื่นแพ้ต่อมน้ำมัน โรคผื่น ผิวหนังอักเสบบริเวณผิวมัน
-เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่พบบ่อย เป็นเป็นหายหาย แม้จะไม่ใช่โรคติดต่อ อาการไม่รุนแรงมากนัก แต่ก็สร้างความลำบากใจให้กับคนไข้ได้ไม่น้อยท

โรคผิวหนังอักเสบเซ็บเดิร์ม Seborrheic Dermatitis หรือโรคผื่นแพ้ต่อมไขมัน คืออะไร รักษาได้อย่างไร


- ผิวหนังมีอาการอักเสบจากต่อมไขมันใต้ผิวหนัง เกิดเป็นผื่นแดง อาจมีขุย หรือสะเก็ดสีขาว ดูคล้ายรังแค สะเก็ดสีเหลือง การอักเสบจะกินบริเวณเป็นวงกว้างโดยเฉพาะบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก เช่น ใบหน้า (โดยเฉพาะหัวคิ้ว ข้างจมูก และหลังหู ) หนังศีรษะ ช่วงบนของหน้าอก หลังส่วนบน พบบ้างบริเวณรักแร้ สะดือ และขาหนีบ รวมทั้งมีอาการคัน ทั้งนี้ความรุนแรงของแต่ละคนไม่เท่ากัน

- เกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย

โรคผิวหนังอักเสบเซ็บเดิร์ม Seborrheic Dermatitis หรือโรคผื่นแพ้ต่อมไขมัน คืออะไร รักษาได้อย่างไร

โรคผิวหนังอักเสบเซ็บเดิร์ม Seborrheic Dermatitis หรือโรคผื่นแพ้ต่อมไขมัน คืออะไร รักษาได้อย่างไร

โรคผิวหนังอักเสบเซ็บเดิร์ม Seborrheic Dermatitis หรือโรคผื่นแพ้ต่อมไขมัน คืออะไร รักษาได้อย่างไร

สาเหตุ
การเกิดยังไม่แน่ชัดนัก โดยอาจเกี่ยวข้องกับ
ปัจจัยภายใน

เกิดจาก เชื้อรา Pityrosporum ovale หรือ เชื้อยีสต์ Malassezia furfur
#ฮอร์โมน ในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะฮอร์โมนแอนโดรเจน
ความผิดปกติของระบบประสาท ทำให้ต่อมไขมันผลิตไขมันออกมามากขึ้น
- ความเครียด
- พันธุกรรม
- การตอบสนองต่อระบบภูมิคุ้มกันในแต่ละคน
- ปัจจัยภายนอก

โรคผิวหนังอักเสบเซ็บเดิร์ม Seborrheic Dermatitis หรือโรคผื่นแพ้ต่อมไขมัน คืออะไร รักษาได้อย่างไร

โรคผิวหนังอักเสบเซ็บเดิร์ม Seborrheic Dermatitis หรือโรคผื่นแพ้ต่อมไขมัน คืออะไร รักษาได้อย่างไร

สิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงของอากาศ เช่น อากาศร้อนจัด อากาศเย็นจัด
การสัมผัสกับสิ่งที่ระคายเคือง
***มักเป็นๆ หายๆ ตามปัจจัยกระตุ้นในแต่ละบุคคล เช่น อากาศ จึงจัดเป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง มักไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมอาการได้ถ้าได้รับการดูแลรักษาและดูแลผิวอย่างถูกต้องครับ ***

การรักษา
- ควรพบแพทย์เพื่อทำการรักษาให้ถูกวิธี โดยโรคนี้รักษาได้ไม่ยาก และมีการใช้ยาทาเพียง 1-2 ชนิดเท่านั้น ควบคู่ไปกับการปฏิบัติตนให้ถูกต้อง

**ไม่ควรไปซื้อยา สเตียรอยด์ steroid ทาเองนะครับโดยเฉพาะบริเวณใบหน้า เนื่องจากมีโอกาสที่จะได้รับสเตียรอยด์ที่มีความแรงสูง และเนื่องจากโรคนี้เป็นโรคที่เป็นเรื้อรัง จึงมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงจากยาสเตียรอยด์ได้บ่อย**

- ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอาง กรณีที่อยากแต่งหน้าปกปิดผื่นเซ็บเดิร์ม เป็นเรื่องที่ไม่แนะนำให้ทำ เพราะอาจไปกระตุ้นให้อาการแย่ลงหรือกลายเป็นผื่นชนิดอื่น เช่น การแพ้สัมผัสครีมหรือเครื่องสำอางบางตัว และอาจทำให้เกิดสิวได้อีกด้วย

- หลีกเลี่ยงสภาวะความเครียดและควรพักผ่อนให้เพียงพอ ควรหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และดื่มน้ำเยอะๆ พยายามทำร่างกายให้แข็งแรง รวมถึงการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีมาตรฐาน เลือกค่า PH ที่บอกความเป็นกรดด่างไม่ให้มากเกินไป หลีกเลี่ยงการใช้ครีมหรือเครื่องสำอางที่มัน และมีส่วนประกอบระคายเคืองผิว เช่น AHA หรือ วิตามินA สำหรับคนที่เป็นเซ็บเดิร์มบริเวณศีรษะ ควรใช้แชมพูสระผมที่ไม่ระคายเคืองหนังศีรษะ

- การรักษาโรคเซ็บเดิร์ม ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่เป็นโรคที่สามารถควบคุมอาการได้ เช่น การใช้ยาเพื่อควบคุมอาการ หากอาการทุเลาลงเป็นเวลา 1-2 ปี เนื่องจากการดูแลรักษาที่ถูกวิธี เมื่อเริ่มมีอาการเกิดขึ้นใหม่ ในกรณีที่เครียดหรือตกอยู่ในภาวะที่ไปกระตุ้นทำให้เกิดโรคขึ้นอีกครั้ง เมื่อรู้ตัวก็สามาถรรีบทายาเพื่อควบคุมอาการไม่ให้เกิดมากหรือลุกลามได้

การดูแลอื่นๆ
- ไม่ใช้เครื่องสำอางทุกชนิดบริเวณที่เป็นโรค โดยเฉพาะคอนซีลเลอร์ หรือรองพื้นหนาๆ เพื่อปกปิดรอยผื่น เพื่อป้องกันการอุดตันของชั้นผิวหนัง และป้องกัน การแพ้ สิวที่อาจเกิดขึ้นได้
- หลีกเลี่ยงความเครียด
- ดื่มน้ำมากๆ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว
#หมอรุจชวนคุย

ผศ. นพ. ศุภะรุจ เลื่องอรุณ

หมอรุจ MD Msc


https://www.facebook.com/454651174702057/posts/1354701818030317?sfns=mo

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้